เกษตรอินทรีย์ คืออะไร ?
เกษตรอินทรีย์* คือ การทำการเกษตรด้วยกรรมวิธีทางธรรมชาติ โดยที่พื้นที่ที่ทำเกษตรนั้น ต้องไม่มีสารพิษ หรือสารเคมีตกค้างและหลีกเลี่ยงจากการปนเปื้อนของสารเคมีทั้งทางดิน ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อความสมบูรณ์ทางชีวภาพในระบบนิเวศน์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามสมดุลของธรรมชาติให้มากที่สุด โดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ หรือสิ่งที่ได้มาจากการตัดต่อพันธุกรรม และมุ่งเน้นการใช้ปัจจัยการผลิตที่มีแผนการจัดการอย่างเป็นระบบในการผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์ให้ได้ผลผลิตสูง อุดมด้วยคุณค่าทางอาหารและปลอดสารพิษ ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิต และสามารถประยุกต์ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเพื่อคุณภาพชีวิต และสนับสนุนแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
ทำไมต้องเกษตรอินทรีย์ ?
ทำไมต้องเกษตรอินทรีย์* จากการใช้ทรัพยากรดินทำการเกษตรโดยไม่คำนึงถึงผลเสียของ ปุ๋ยเคมีสังเคราะห์ ก่อให้เกิดความไม่สมดุลในแร่ธาตุและกายภาพของดินตามธรรมชาติ ทำให้สิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ในดินนั้นสูญหาย และไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งการที่ธรรมชาติขาดสมดุลนี้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ต่อกระบวนการเจริญเติบโตทางธรรมชาติ แต่เมื่อเกิดความไม่สมดุลขึ้นแล้ว จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ผืนดินสูญเสียความสามารถในการดูดซับแร่ธาตุในดิน ทำให้ผลผลิตมีแร่ธาตุ วิตามิน และพลังงานชีวิตต่ำ เป็นผลให้เกิดการขาดแคลนธาตุอาหารรองในพืช เป็นสาเหตที่ทำให้พืช ผลผลิตอ่อนแอ ขาดภูมิต้านทานโรค และทำให้เกิดการคุกคามของแมลง ศัตรูพืช และเชื้อโรคในพืช ซึ่งจะนำไปสู่การใช้สารเคมีฆ่าแมลงและเชื้อราเพิ่มขึ้น ทำให้ดินเสื่อมคุณภาพในที่สุด และในดินที่เสื่อมคุณภาพนี้ จะทำปฏิกิริยาเร่งการเจริญเติบโตของศัตรูพืชให้เจริญเติบโตแข่งกับพืชเกษตร และนำไปสู่การใช้สารเคมีสังเคราะห์กำจัดแมลงและวัชพืช
* ข้อมูลจาก https://www.arda.or.th/detail/6186
-----------------------------------
ทำไมต้องมี จุลินทรีย์ เพื่อการเกษตร ?
จุลินทรีย์ เพื่อการเกษตร หมายถึง จุลินทรีย์ประเภทที่มีประโยชน์ต่อพืช และสัตว์ ที่เกี่ยวสข้องกับการเกษตรกรรม โดยเฉพาะจุลินทรีย์ เพื่อการเกษตรที่เกี่ยวกับพืช มีหน้าที่อนุรักษ์ ดิน น้ำ สภาพแวดล้อม ผลิต และจัดการธาตุอาหาร กำจัดจุลินทรีย์เชื้อโรค และอื่นๆ ที่เป็นการส่งเสริมให้พืชเจริญเติบโตได้ดี
บทบาทของ จุลินทรีย์ เพื่อการเกษตร
ย่อยสลาย(กิน) อินทรีย์วัตถุ และอนินทรีย์วัตถุ แล้วถ่ายมูลออกมาเรียกว่า " กรดอินทรีย์ " ส่วนที่เป็นธาตุอาหารพืชซึ่งอยู่ในรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที อีกทั้งมีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อโรคพื้ชได้
ปรับค่าเป็น กรด - ด่าง ของดิน ทำให้ดินเป็นกลาง
จับยึดธาตุอาหารพืชจากอากาศไปไว้ในตัวเองแล้ว ปลดปล่อยให้แก่ต้นพืช
ปลดปล่อยปุ๋ยเคมีที่ถูกดิน (กรดจัด) ตรึงไว้ให้ออกมาเป็นประโยชน์แก่ต้นพืช
ตรึงปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ที่ใ่ส่ลงไปไว้แล้ว ปลดปล่อยให้ออมกมาในไม่ช้า เพื่อให้พืชได้มีเวลาดูดซับไปใช้งานได้ทันที และสม่ำเสมอ
สลายฤทธิ์สารที่เป็นพิษต่อพืชให้เจือจาง จนกระทั้งหมดไปในที่สุด
กำจัดจุลินทรีย์ประเภทที่ไม่ประโยชน์ หรือเป็นโทษ(เชื้อโรค) ต่อต้นพืช
เกิดได้เองตามธรรมชาติ ภายใต้สภาพแวดบล้อมที่เหมาะสม
เคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร มีผลค่อการเกษตรอย่างไร ?
หลายคนมักจะเชื่อว่า การใช้สารเคมีการเกษตรช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้ แต่ที่จริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ อีกทั้งการใช้สารเคมียังมีผลกระทบต่อระบบนิเวศอีกด้วย
ยากำจัดศัตรูพืช
ยากำจัดศัตรูพืช ผลที่เกิดขึ้นกับแมลงศัตรูพืช เมื่อมีการใช้สารเคมีกำจัดแมลงอย่างต่อเนื่อง จากการศึกษาของนักวิจัยพบว่า เพียง 50 ปี ที่เริ่มการใช้สารเคมีนั้น มีแมลงมากกว่า 400 ชนิด ที่ได้พัฒนาภูมิต้านทานยาฆ่าแมลงชนิดต่างๆ ซึ่งทำให้ต้องใช้ยาฆ่าแมลงที่มีความเข็มข้นมากขึ้น (อาการดื้อยา) ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มมากขึ้น เพื่อควบคุมกำจัดแมลง
การทำลายสมดุลของระบบนิเวศ
การทำลายสมดุลของระบบนิเวศ ไม่เพียงแต่แมลงศัตรูพืชที่ตายลง เมื่อมีการใช้สารเคมีการเกษตร แต่สิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศการเกษตร โดยเฉพาะแมลงที่เป็นประโยชน์ ที่ทำหน้าที่การควบคุมศัตรพืช หรือแมลงผสมเกษรที่จะได้รับผลกระทบจากสารเคมีการเกษตรด้วยเช่นกัน
การสะสมของสารเคมี
การสะสมของสารเคมี ในห่วงโซ่อาหาร สารเคมีกำจัดศัตรูพืชนั้นไม่ได้คงอยู่ในบริเวณพื้นที่การเกษตร แต่มักจะแพร่กระจายออกไปในสิ่งแวดล้อม เพราะน้ำที่ไหลผ่านแปลงเกษตร ที่มีการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดศัตรูพืช จะไหลลงไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมี ในระบนิเวศอย่างกว้างขวาง สิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำ อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจารกสารเคมีเหล่านี้ และสารเคมีเหล่านี้ อาจจะไปสะสมอยู่ในร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่างๆ และถ่ายทอดไปยังสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านบนของห่วงโซ่อาหาร(เช่น มนุษย์, วัว, สุกร, เป็นต้น) เกิดการสะสมของสารพิษในปริมาณเข้มข้น
อาการพิษสะสม
อาการพิษสะสม เมื่อได้รับสารเคมีการเกษตรไปแล้วระยะหนึ่ง (อาจนานหลายเดือน หรือ ปี ก็ได้) หรือได้รับสารเคมีการเกษตรแต่เพียงเล็กน้อยต่อเนื่องกัน ทำให้เกิดการสะสมของสารพิษในร่างกายถึงจุดๆ หนึ่งสารพิษเหล่านั้น อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย (โดยตรง หรือ โดยอ้อม) ที่เป็นปัญหาสุขภาพได้หลายลักษณะเช่น การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของเซลล์(Mutagan) โดยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหลายชนิดถูกออกแบบให้รบกวนต่อพันธุกรรมของเซลล์ส่งผลให้เกิดเนื้องอก หรือมะเร็ง หรือทำให้การพัฒนาของเด็กทารกในครรภ์แม่ที่ผิดปกติไป ซึ่งรวมไปผลกระทบต่อเซลล์สืพันธุ์
กลุ่มสารเสริมประสิทธิภาพพืช